TOP กำไรไตรมาสแรกลด 36.59% จากขาดทุนสต๊อกน้ำมัน บาทแข็งฉุดกำไรค่าเงิน
บริษัท ไทยออยล์ จำกัด(มหาชน) หรือ TOP รายงานผลประกอบการไตรมาสแรก 2566 กำไรสุทธิ 4,554.13 ล้านบาท ลดลง 36.59% จากไตรมาสเดียวกันของปีที่ผ่านมา มีกำไรสุทธิ 7,192.67 ล้านบาท โดยรายได้ลดลงและขาดทุนสต๊อกน้ำมันกว่า 3 พันล้านบาท
ในช่วงไตรมาสแรกกลุ่มไทยออยล์มีรายได้จากการขาย 115,943 ล้านบาท ลดลง 7,189 ล้านบาท ตามราคาขายน้ำมันอากาศยาน/น้ำมันก๊าด และน้ำมันดีเซลที่ปรับตัวลดลง หลังอุปทานน้ำมันจากรัสเซียยังคงมีการซื้อขายในตลาด
ทั้งนี้ ราคาน้ำมันดิบในไตรมาสแรกปรับตัวลดลงจากไตรมาส 4 ปีที่ผ่านมาเนื่องจากตลาดคลายกังวลต่ออุปทานน้ำมันดิบตึงตัว หลังรัสเซียปรับการส่งออกน้ำมันจากยุโรปไปยังประเทศอื่นแทน นอกจากนี้ตลาดได้รับแรงกดดันจากความกังวลต่อภาวะเศรษฐกิจถดถอย จากการเร่งปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางทั่วโลก ประกอบกับความกังวลในภาคธนาคารจากการเกิดปัญหาสภาพคล่องของธนาคารหลายแห่งในสหรัฐฯ และยุโรป ส่งผลให้กลุ่มไทยออยล์มีขาดทุนจากสต๊อกน้ำมัน 3,339 ล้านบาทในไตรมาสแรกขาดทุนลดลง 5,839 ล้านบาทจากไตรมาส 4 ปี 2565และมีกำไรขั้นต้นจากการผลิตของกลุ่มรวมผลกระทบจากสต๊อกน้ำมันอยู่ที่ 8.3 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรลในไตรมาสแรกเพิ่มขึ้น 6.8 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรลจาก ไตรมาส 4 ปี 2565
TOP ขาดทุนสต็อกน้ำมัน ฉุดกำไรดิ่ง 99.4% ไตรมาส 3 เหลือ 12 ล้านบาท
“ไทยออยล์” เปิดตัวซีอีใหม่ “บัณฑิต ธรรมประจำจิต” ตั้งเป้าดันธุรกิจปิโตรเคมี
ราคาน้ำมันปรับตัวลงตั้งแต่ไตรมาสแรกของปีที่ผ่านมา
ในขณะที่มีรายการปรับลดมูลค่าสินค้าคงเหลือน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูป 207 ล้านบาทในไตรมาสแรกเทียบกับรายการกลับรายการมูลค่าสินค้าคงเหลือน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูป 2,104 ล้านบาทในไตรมาส 4 ปี 2565เมื่อรวมผลกำไรจากเครื่องมือทางการเงินที่เกิดขึ้นจริงสุทธิ 329 ล้านบาทแล้ว
กลุ่มไทยออยล์มี EBITDA 8,182 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5,784 จากไตรมาสก่อน นอกจากนี้ในไตรมาสแรกกลุ่มไทยออยล์มีผลกำไรจากการวัดมูลค่ายุติธรรมเครื่องมือทางการเงินจำนวน 158 ล้านบาท เทียบกับผลขาดทุนจากการวัดมูลค่ายุติธรรมเครื่องมือทางการเงินจำนวน 1,247 ล้านบาทในไตรมาส 4และมีผลกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนสุทธิ 571 ล้านบาท (โดยเป็นกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนสุทธิของสินทรัพย์และหนี้สินที่เป็นสกุลเงินต่างประเทศจ านวน 763 ล้านบาท) ซึ่งลดลง 2,081 ล้านบาทจากไตรมาส 4 ปี 2565 เนื่องจากค่าเงินบาทที่แข็งค่าจาก ณ สิ้นไตรมาสก่อน เมื่อหักค่าเสื่อมราคา ต้นทุนทางการเงิน และค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้แล้ว ทำให้ในไตรมาสแรกกลุ่มไทยออยล์มีกำไรสุทธิ 4,554 ล้านบาท หรือ 2.04 บาทต่อหุ้น เพิ่มขึ้น 4,407 ล้านบาทจากไตรมาสก่อน
เมื่อเทียบไตรมาสแรกปีนี้ กับไตรมาสเดียวกันปีที่ผ่านมากลุ่มไทยออยล์มีปริมาณวัตถุดิบที่ป้อนเข้าสู่กระบวนการผลิตของกลุ่มเพิ่มขึ้น โดยมีรายได้จากการขายเพิ่มขึ้น 1,437ล้านบาท และมีกำไรขั้นต้นจากการผลิตของกลุ่มไม่รวมผลกระทบจากสต๊อกน้ำมันเพิ่มขึ้น 4.2 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล สาเหตุหลักจากส่วนต่างราคาน้ำมันอากาศยาน/น้ำมันก๊าดและน้ำมันดีเซล เทียบกับน้ำมันดิบดูไบที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นหลังสถานการณ์โควิด-19 ในหลายประเทศเริ่มคลี่คลาย
นอกจากนี้ราคาน้ำมันดิบรวมถึง Crude Premium ที่ปรับตัวลดลงส่งผลให้กลุ่มไทยออยล์ขาดทุนจากสต๊อกน้ำมัน 3,339 ล้านบาทในไตรมาสแรก ปี 2566เทียบกับกำไรจากสต๊อกน้ำมัน 14,472 ล้านบาทในช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อนหน้า ในขณะที่มีรายการปรับลดมูลค่าสินค้าคงเหลือน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูปลดลง 2,402 ล้านบาทจากไตรมาสแรกปี 2565 เมื่อรวมกับผลกำไรจากเครื่องมือทางการเงินที่เกิดขึ้นจริงสุทธิส่งผลให้กลุ่มไทยออยล์มี EBITDA ลดลง 4,852 ล้านบาทจากไตรมาสแรก 2565
ในไตรมาสแรกกลุ่มไทยออยล์มีผลกำไรจากการวัดมูลค่ายุติธรรมเครื่องมือทางการเงินจำนวน 158 ล้านบาท เทียบกับผลขาดทุนจากการวัดมูลค่ายุติธรรมเครื่องมือทางการเงินจำนวน 1,625 ล้านบาทในไตรมาสแรกแต่มีผลกำไรจากอัตราแลกเปลี่ยนสุทธิเพิ่มขึ้น 260 ล้านบาท เมื่อหักค่าเสื่อมราคา ต้นทุนทางการเงิน และค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ ส่งผลให้มีกำไรสุทธิลดลง 2,629ล้านบาทจากช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน
เลือกตั้ง 2566 : เช็กเบอร์ "พรรคการเมือง 2566" แบบบัญชีรายชื่อ
สรุปเหรียญ ซีเกมส์ 2023 ล่าสุด ประจำวันอังคารที่ 9 พ.ค. 66
ประกาศ ฉ.8 "พายุฤดูร้อน" ถล่ม 16 จว.วันนี้ เตือนฝนตกหนักต่อเนื่อง 11-14 พ.ค.
เลือกตั้ง 2566 : การมีส่วนร่วมของประชาชน คือ หัวใจของการเลือกตั้ง คำพูดจาก เว็บสล็อตใหม่ล่า