เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. สำนักข่าวเดอะนิวยอร์กไทมส์รายงานว่า กองทัพรถถังสัญชาติตะวันตกและรถยานเกราะของยูเครน เปิดฉากโจมตีกองทัพรัสเซียในแคว้นซาโปริซเซีย ซึ่งคาดว่าเป็นสัญญาณการโต้กลับในฤดูร้อนที่หลายฝ่ายตั้งตารอมานานหลายเดือน
รายงานของเดอะนิวยอร์กไทมส์ได้อ้างคำพูดของเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ จำนวน 3 รายที่ระบุว่า ข้อบ่งชี้เรื่องการโต้กลับในครั้งนี้คือ การที่ยูเครนใช้รถถังรุ่นเลพเพิร์ด 2 ของเยอรมนี และยานยนต์หุ้มเกราะแบรดลีย์ของสหรัฐฯ ในสนามรบ
แคว้นเคอร์ซอนจมบาดาล คนและสัตว์เดือดร้อนหนัก
โรงไฟฟ้า-คาบสมุทรไครเมีย อาจเจอผลกระทบจากเขื่อนแตก
แนวรบสำคัญในแคว้นซาโปริซเซียที่ทางฝั่งยูเครนเปิดศึกเต็มอัตรา อยู่ที่หมู่บ้านมาลา โตกมัชคา ทางตะวันตกของแคว้น โดยมีรายงานว่ากองทัพยูเครนได้ใช้จรวดไฮมาร์สยิงถล่มพื้นที่นี้ด้วย
ด้านโนวายากาเซียตา สำนักข่าวรัสเซียระบุว่า ทหารรัสเซียในพื้นที่เขียนโพสต์ในเทเลแกรมว่า การสู้รบที่หมู่บ้านแห่งนี้เป็นไปอย่างดุเดือด และกองทัพรัสเซียก็ได้โจมตียูเครนกลับด้วยการยิงปืนใหญ่และโจมตีจากเครื่องบินรบ
รายงานข่าวของสำนักข่าวสหรัฐฯ และสำนักข่าวรัสเซีย สอดคล้องกับรายงานประจำวันของสถาบันเพื่อการศึกษาสงครามหรือ ISW ที่เผยแพร่ออกมาเมื่อคืนนี้ จากแผนที่จะเห็นได้ชัดว่าการสู้รบของทั้งสองฝ่ายกลับมาดุเดือดอีกครั้ง รัสเซียและยูเครนปะทะกันตลอดแนวของภูมิภาคดอนบาสเรื่อยลงมาจนถึงแคว้นซาโปริซเซียทางตอนใต้
จุดที่สองฝ่ายปะทะกันอย่างหนัก ได้แก่ เมืองบัคมุต เมืองอัฟดีฟกา และเขตโนโวดาริฟกาในแคว้นซาโปริซเซีย โดยจุดที่ทั้งสองกองทัพปะทะกันรุนแรงที่สุดคือ เขตโนโวดาริฟกา สังเกตได้ว่าจุดปะทะในแผนที่มีขนาดใหญ่กว่าพื้นที่อื่นๆ
เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัฐบาลสหรัฐฯ 2 คนได้ระบุกับสำนักข่าวเดอะนิวยอร์กไทมส์ว่ากองทัพยูเครนอาจได้รับความเสียหายหนักเช่นเดียวกัน หลังเปิดศึกกับกองทัพรัสเซียรอบนี้
เนื่องจากกองทัพรัสเซียเตรียมตัวตั้งรับการบุกของกองทัพยูเครนมานาน และสภาพภูมิประเทศในสนามรบที่เป็นที่ราบโล่ง ทำให้รถถังของยูเครนที่บุกเข้าไปในพื้นที่เสี่ยงต่อการถูกโจมตีกลับด้วยปืนใหญ่
โดยแผนที่ที่แสดงให้เห็นสนามเพลาะที่กองทัพรัสเซียขุดไว้เพื่อตั้งรับการโต้กลับของยูเครน สนามเพลาะส่วนใหญ่อยู่ในแนวรบด้านตะวันออกบริเวณแคว้นโดเนตสก์ แคว้นซาโปริซเซีย และแนวรบด้านใต้บริเวณคาบสมุทรไครเมีย ทำให้เป็นอุปสรรคต่อยูเครนในการเปิดฉากโต้กลับฤดูร้อน
ท่ามกลางการสู้รบที่ดำเนินไปอย่างดุเดือด เมื่อวานนี้ โวโลดิมีร์ เซเลนสกี ประธานาธิบดียูเครนระบุว่ามีผลลัพธ์บางอย่างเกิดขึ้นในแนวรบแคว้นโดเนตสก์ แต่ไม่ได้ระบุรายละเอียดอื่นๆ เพิ่มเติม
ขณะเดียวกัน เซอร์เก ชอยกู รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมรัสเซีย ก็ได้ออกมาระบุว่ากองทัพรัสเซียสามารถขับไล่การรุกคืบครั้งใหญ่ของยูเครนที่มีทหารกว่า 1,500 นายสำเร็จด้วยการโจมตีทางอากาศและยิงปืนใหญ่ รัฐมนตรีกลาโหมรัสเซียยังระบุเสริมด้วยว่า ผลจากการโจมตีทำให้ทหารยูเครนจำนวนมากบาดเจ็บและเสียชีวิต จนต้องถอนกำลังออกไป
นอกจากนี้ เซอร์เก ชอยกูได้เรียกร้องให้บริษัทโลจิสติกส์รัสเซีย เร่งจัดส่งยุทโธปกรณ์ทางทหารและเครื่องกระสุนปืนให้กับกองกำลังที่ปฏิบัติการรบอยู่ในยูเครน โดยสถานที่ที่รัฐมนตรีกลาโหมรัสเซียไปปรากฏตัว คาดว่าเป็นคลังแสงในเขตทหารบริเวณภูมิภาครัสเซียตะวันตก
ขณะที่การโต้กลับและตั้งรับของทั้งรัสเซียและยูเครนเป็นไปอย่างดุเดือด ตอนนี้สถานการณ์น้ำท่วมในแคว้นเคอร์ซอนหลังจากเขื่อนยักษ์โนวา
คาโคฟกาแตกก็ยังคงรุนแรง ประชาชนต้องใช้ชีวิตด้วยความยากลำบาก และเจ้าหน้าที่ทางการยูเครนต้องเร่งอพยพคนออกจากพื้นที่
ทางการยูเครนรายงานว่ามีอุปสรรคเพิ่มเมื่อรัสเซียได้ยิงโจมตีใส่ประชาชนที่กำลังอพยพหนีน้ำท่วม
ภาพวิดีโอการโจมตีที่ถูกนำลงมาเผยแพร่ลงบนโลกออกไลน์ ขณะที่เจ้าหน้าที่ของยูเครนกำลังพายเรือช่วยเหลือประชาชน ก่อนที่รัสเซียจะยิงปืนใหญ่โจมตี เคราะห์ดีที่กระสุนไปตกตรงพื้นน้ำบริเวณใกล้เคียงแทนคำพูดจาก นสล็อตออนไลน์
อย่างไรก็ตามการโจมตีจากรัสเซียก่อความเสียหา เจ้าหน้าที่ตำรวจของยูเครนรายงานว่า มีประชาชนเสียชีวิต 1 ราย และได้รับบาดเจ็บอีกอย่างน้อย
3 ราย โดยผู้ได้รับบาดเจ็บถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลตั้งแต่เมื่อวานนี้ ด้านกระทรวงมหาดไทยยูเครน ซึ่งเป็นผู้ที่รับผิดชอบการอพยพประชาชนระบุว่า รัสเซียเปิดฉากยิงโจมตีใส่แคว้นเคอร์ซอน ขณะที่ทางการยูเครนกำลังทำงานแข่งกับเวลาเพื่อเร่งอพยพผู้คนออกนอกพื้นที่ สอดคล้องกับคำให้การของนักข่าวต่างประเทศที่เข้าไปทำข่าว
ด้าน เซอร์กีย์ คิสลิตสยา เอกอัครทูตยูเครนประจำสหประชาชาติ ได้ออกแถลงประณามรัสเซีย ณ ที่ทำการใหญ่องค์การสหประชาชาติในนครนิวยอร์ก สหรัฐฯ พร้อมกับขอให้รัสเซียหยุดยิงและเปิดทางให้เจ้าหน้าที่ได้ช่วยเหลือประชาชนจากน้ำท่วมก่อน
ส่วนสถานการณ์น้ำท่วมในแคว้นเคอร์ซอนยังคงไม่เปลี่ยนแปลง ระดับน้ำที่ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนของประชาชนยังสร้างความเสียหายเป็นวงกว้างกว่า 600 ตารางกิโลเมตร หรือพอๆ กับจังหวัดสมุทรสงคราม สภาพบ้านเรือนของประชาชนตอนนี้ส่วนใหญ่ยังคงจมอยู่ใต้น้ำ
ภาพมุมสูงเผยให้เห็นเพียงแค่หลังคาที่โผล่พ้นน้ำขึ้นมาเท่านั้น นอกจากมวลน้ำมหาศาลจะส่งผลกระทบต่อแคว้นเคอร์ซอนแล้ว ล่าสุดตั้งแต่เมื่อคืนที่ผ่านมา ทางการยูเครนรายงานว่า มวลน้ำจากเขื่อนโนวา คาโคฟกา เดินทางไปถึงแคว้นมิโคลายิฟ บริเวณทิศตะวันตกของแคว้นเคอร์ซอนเรียบร้อย
ตอนนี้พื้นที่บริเวณริมแม่น้ำเริ่มมีน้ำท่วมขัง โดยระดับน้ำสูงถึงบริเวณต้นขาของประชาชน ทำให้การสัญจรบนท้องถนนเป็นไปอย่างยากลำบาก ประชาชนต้องใช้เรือเพื่อเดินทางแทนการใช้รถยนต์
นอกจากน้ำท่วมแล้ว อีกหนึ่งปัญหาที่จะตามมาหลังเขื่อนโนวา คาโคฟกาแตก คือ ปัญหาภัยแล้ง โดยเฉพาะในพื้นที่คาบสมุทรไครเมีย เนื่องจากเขื่อนแห่งนี้ได้ส่งน้ำหล่อเลี้ยงคลองทางตอนเหนือของคาบสมุทรไครเมียที่สร้างขึ้นตั้งแต่สมัยสหภาพโซเวียต คลองแห่งนี้ทำหน้าที่ส่งน้ำราวร้อยละ 85 ไปให้ประชาชนในคาบสมุทรไครเมียใช้ในการเกษตรและอุตสาหกรรมตลอดจนเพื่อการบริโภคด้วย
ประชาชนบนคาบสมุทรไครเมียที่ต้องพึ่งพาน้ำจากคลองทางตอนเหนือระบุว่า ค่อนข้างกังวลกับภาวะภัยแล้งที่อาจเกิดขึ้นในฤดูร้อนปีนี้ เนื่องจากน้ำที่ลดลงจะส่งผลกระทบต่อการเพาะปลูกและการเก็บเกี่ยว
ท่ามกลางสงครามที่ทวีความรุนแรงขึ้น หลังจากกองทัพยูเครนเริ่มปฏิบัติการโต้กลับรัสเซียในหลายแนวรบ และเกิดการโจมตีเขื่อนในแคว้นเคอร์ซอน
ล่าสุดทางฝั่งนาโตก็ได้ออกมาเคลื่อนไหวด้วยการซ้อมรบทางอากาศครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ขององค์การ
เมื่อวันพุธที่ผ่านมา รัฐบาลสหรัฐฯ และเยอรมนีออกมาประกาศว่า จะจัดการซ้อมรบทางอากาศของชาติสมาชิกนาโตครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ นับตั้งแต่ก่อตั้งองค์การแห่งนี้ขึ้นเมื่อ 74 ปีก่อน ตามกำหนดการ การซ้อมรบทางอากาศจะมีขึ้นที่ประเทศเยอรมนีในวันอาทิตย์ที่ 11 มิถุนายน
ยาวไป 11 วัน จนถึงวันที่ 22 มิถุนายน คาดว่าจะมีทหารจากชาติสมาชิกนาโต 25 ชาติกว่า 10,000 คน พร้อมเครื่องบินรบ 250 คัน เข้าร่วมการซ้อมรบครั้งนี้ พลโทอินโก แกร์ฮาร์ทซ์ เสนาธิการทหารอากาศเยอรมนีระบุเหตุผลในการซ้อมรบครั้งนี้ว่า ชาติสมาชิกนาโตต้องการแสดงให้เห็นถึงความพร้อม
ในการปกป้องแผ่นดินทุกตารางนิ้ว เพราะถือเป็นเส้นแดง หรือ Red Line ที่ใครก็ตามไม่สามารถข้ามได้ ทั้งนี้ การซ้อมรบครั้งนี้จะเป็นการซ้อมในเชิงป้องกันและนาโตจะไม่นำเครื่องบินมุ่งหน้าไปสู่พื้นที่แคว้นคาลินินกราด ซึ่งเป็นดินแดนของรัสเซียในเขตรัฐบอลติก
ขณะเดียวกัน วันนี้สวีเดน ซึ่งขณะนี้อยู่ในช่วงรอการภาคยานุวัตรจากตุรกีและฮังการีเพื่อเข้าเป็นสมาชิกนาโต ได้ออกมาประกาศว่าอาจจะอนุญาตให้นาโตเข้าไปตั้งฐานทัพในประเทศ แม้จะยังไม่ได้เป็นชาติสมาชิกนาโตเต็มรูปแบบก็ตาม อุล์ฟ คริสเตอชอน นายกรัฐมนตรีสวีเดนระบุว่า
สาเหตุที่สวีเดนตัดสินใจเช่นนี้เป็นไปเพื่อส่งสัญญาณที่ชัดเจนไปยังรัฐบาลรัสเซีย และเสริมสร้างความมั่นคงให้กับประเทศตนเอง